เพลินตาปราสาทหิน เยือนถิ่น โบราณสถาน เก่ากาลประวัติศาสตร์ ผุดผาดสาวเรณู สวยหรูไหมแพรวา งามตาน้ำตกใส ป่าใหญ่สวย รวยไม้ดอก ทะเลหมอกภูเขา หนาวสุด แห่งสยาม
ประวัติ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ คณะผู้จัดทำ


ศิลปะ

[นาฏศิลป์]   [ดนตรี]   [ศิลปะ]

   
ฟ้อนภูไทเรณูนคร

 


         ประวัติของการฟ้อนภูไทเรณูนคร
                     เป็นการฟ้อนประเพณีที่มีมาแต่บรรพบุรุษ ที่สร้างบ้านแปลงเมือง การฟ้อนภูไทนี้ถือว่าเป็นศิลปะเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม
              ประจำเผ่าของภูไทเรณูนคร ถือว่าฟ้อนภูไทเป็นการฟ้อนที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครพนม  
              ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมานมัสการพระธาตุพนมในปี พ.ศ. 2498 นั้น
              นายสง่า จันทรสาขา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมในสมัยนั้น ได้จัดให้มีการฟ้อนผู้ไทถวาย นายคำนึง อินทร์ติยะ ศึกษาธิการอำเภอเรณูนคร
              ได้อำนวยการปรับปรุงท่าฟ้อนผู้ไทให้สวยงามกว่าเดิม โดยเชิญผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์ในการฟ้อนผู้ไทมาให้คำแนะนำ จนกลายเป็นท่า
              ฟ้อนแบบแผนของชาวเรณูนคร และได้ถ่ายทอดให้แก่ลูกหลานสืบทอดต่อจนปัจจุบัน
        
        รูปแบบและลักษณะการฟ้อนภูไทเรณูนคร

                     ชายหญิงจับคู่เป็นคู่ ๆ แล้วฟ้อนท่าต่าง ๆ ให้เข้ากับจังหวะดนตรี โดยฟ้อนรำเป็นวงกลม แล้วแต่ละคู่จะเข้าไปฟ้อนกลางวง
              เป็นการโชว์ลีลาท่าฟ้อน เวลาฟ้อนทั้งชายหญิงจะต้องไม่สวมถุงเท้าหรือรองเท้า และที่สำคัญคือในขณะฟ้อนภูไทนั้น
              ฝ่ายชายจะถูกเนื้อต้องตัวฝ่ายหญิงไม่ได้เด็ดขาด (มิฉะนั้นจะผิดผี เพราะชาวภูไทนับถือผีบ้านผีเมือง อาจจะถูกปรับใหม่ตามจารีตประเพณีได้)
       
        การแต่งกาย

                     ฝ่ายชายจะนุ่งกางเกงขาก๊วย สวมเสื้อสีน้ำเงิน คอตั้งขลิบแดงกระดุมเงิน มีผ้าขาวม้าไหมมัดเอว สวมสายสร้อยเงิน ข้อเท้าทำด้วยเงิน
              ประแป้งด้วยแป้งขาว มีดอกไม้ทัดหูอย่างสวยงาม
                     ฝ่ายหญิงนั้นนุ่งผ้าซิ่นและสวมเสื้อแขนกระบอกสีน้ำเงินขลิบแดง ประดับด้วยกระดุมเงิน พาดสไบสีขาวที่ไหล่ซ้าย
              ติดเข็มกลัดเป็นดอกไม้สีแดง สวมสร้อยคอ กำไลข้อมือ ข้อเท้าหรือทำด้วยทองหรือเงินตามควรแก่ฐานะของตน เกล้าผม มีดอกไม้สีขาวประดับผม

             กลับด้านบน                                                                                                                                    ที่มา : http://www.isan.clubs.chula.ac.th

พิณ

 



พิณ เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายแบบหนึ่ง มีหลายชนิดแตกต่างตามท้องที่ ในภาคอีสานของประเทศไทย
พิณอาจมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น เช่น "ซุง" หรือ "เต่ง" จัดเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย
มีรูปร่างคล้ายกีตาร์แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยทั่วไปมี 3 สาย ในบางท้องถิ่นอาจมี 2 หรือ 4 สาย
บรรเลงโดยการดีดด้วยวัสดุทีเป็นแผ่นบาง เช่นไม้ไผ่เหลา หรืออาจใช้ปิ้กกีตาร์ดีดก็ได้ สมัยก่อนจะเล่นเครื่องเดียวเพื่อเกี้ยวสาว ปัจจุบันมักใช้บรรเลงในวงดนตรีโปงลาง วงดนตรีลำซิ่ง หรือวงดนตรีลูกทุ่ง

                                                                                                                                                                   ที่มา : https://th.wikipedia.org/     


โหวด




โหวด เป็นเครื่องดนตรีไทยภาคอีสานประเภทเครื่องเป่า มีรูปร่างเป็นทรงกระบอก ทำจากไม้กู่แคนซึ่งเป็นไม้ซางชนิดเดียวกับ
ที่ใช้ทำแคน มีลักษณะคล้ายกับเครื่องดนตรีกรีกโบราณ ที่เรียกว่า "Pan Pipe"

                                                                                                                                                         ที่มา : https://th.wikipedia.org/     


กรับคู่




กรับคู่ ทำด้วยไม้ไผ่ผ่าซีก เหลาให้เรียบและเกลี้ยงอย่าให้มีเสี้ยน
มีรูปร่างแบนตามซีกไม้ไผ่ หนาตามขนาดของเนื้อ ไม้ยาวประมาณ 40 ซม ทำเป็น 2 อันหรือเป็นคู่
ใช้ตีให้ผิวกระทบกันทางด้านแบนเกิดเป็นเสียง กรับ

             กลับด้านบน                                                                                                                                            ที่มา : https://th.wikipedia.org/     


ถ้ำฝ่ามือแดง




                      ถ้ำฝ่ามือแดง เป็นภูเขาหินทรายบนเทือกเขาภูพาน ห่างจากหมู่บ้านส้มป่อยที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 4 กม.
            ลักษณะเป็นหน้าผา ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของภูยาวประมาณ 61เมตร ภาพเขียนสีโบราณอยู่บนผนังหินของหน้าผา
           ใต้ลานหินของยอดภูไปจนสุดหน้าผา ภาพเขียนสีโบราณอยู่สูงจากพื้น ประมาณ 5 เมตร
            ถ้ำฝ่ามือแดงอยู่ในบริเวณภูอ่างบก (ภูจอมนาง หรือ เขาจอมนาง) อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัด มุกดาหาร

                    ภาพเขียนสีโบราณ มีรูปรอยฝ่ามือสีแดงติดผนังถ้ำ ซึ่งมีลักษณะเป็นการจุ่มสีแล้วทาลงไปบนผนังหิน 2 มือ และอีก 4 มือ
           เป็นร่องรอยการวางมือทาบบนผนังหินแล้วใช้สีทับ เป็นร่องรอยการสื่อความหมายของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์อายุประมาณ 3,000 ปี 

                   ภาพเขียนสีโบราณ รูปมือพบมือคนจำนวนทั้งหมด 9 มือ กลุ่มใหญ่  ประกอบด้วยมือ 7 มือ ทำโดยวิธีพ่น  4 มือ และแบบทาบ  5 มือ
           ทั้งหมดเป็นมือข้างขวา เป็นมือข้างซ้ายเพียงมือเดียว สีแดงคล้ำภาพสัตว์ พบภาพสัตว์ 3 ภาพ เขียนแบบระบายเงาทึบภาพวัตถุ
           และภาพสัญลักษณ์ เป็นลายเส้นทึบ ไม่แน่ชัดว่ารูปอะไร

             กลับด้านบน                                                                                                                                            ที่มา : www.remawadee.com     


โครงงานบูรณาการ "O-NET สามกลุ่มสาระการเรียนรู้"
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี