เสน่ห์ปะการัง เยือนยังทะเลมรกต สวยสดป่าไม้ ไข่มุกขึ้นชื่อ เลื่องลือ นกน้ำ ถิ่นถ้ำกลางทะเล เสน่ห์ เรือกอและ แวะน้ำตกอุดม ชมหมู่เกาะ ไพเราะนกเขาชวา ศิลป์ล้ำค่าปักษ์ใต้

 

กลุ่มสาระศิลปะ

[นาฏศิลป์] [ดนตรี] [ศิลปะ]

นาฏศิลป์

คำอธิบาย: http://webiz.co.th/files/photos/1/26/79/1267973/1503809.jpg

                                                                                                ชื่อชุดการแสดง : ตารีกีปัส (Tarikipas)

                                             ประวัติที่มา :   เป็นนาฏศิลป์พื้นเมืองของชาวไทยมุสลิมทางใต้ คำว่า ตารีกีปัส เป็นภาษามลายูท้องถิ่น
                               หมายถึงการฟ้อนรำที่ใช้พัดเป็นส่วนประกอบทำนองเพลงที่ใช้นำมาจากการแสดงชุด“ตาเรียนเนรายัง”
                               ซึ่งเป็นเพลงประกอบการแสดงระบำประมงของชาวมาเลเซีย ส่วนชื่อเพลง คือ อีนัง ตังลุง เป็นเพลงผสม
                               ระหว่างมลายูกับจีน 

                                             รูปแบบการแสดง : การแสดงตารีกีปัส มีรูปแบบการแสดงเป็นหมู่ระบำ ซึ่งรูปแบบการแสดงมีอยู่
                               2 ลักษณะคือ
                                             การแสดงเป็นคู่ ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง 
                                             การแสดงเป็นหมู่ระบำโดยใช้ผู้หญิงแสดงล้วน
                                             ใช้พัดประกอบการแสดง ประกอบกับเพลงที่มีความไพเราะน่าฟัง ลีลาท่ารำจึงอ่อนช้อย

                                             การแต่งกาย :  การแต่งกาย มี ๒ ลักษณะ คือ 
                                             ๑. การแต่งกายแบบแสดงคู่ชายหญิง  นิยมแต่งตามลักษณะของชนชั้นสูงของชาวไทยมุสลิมเต็มยศ

                                             ๒. การแต่งกายแบบผู้หญิงล้วน  เป็นการแต่งกายที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแสดงชุดพิธีเปิดสนาม
                               งานกีฬาเขตแห่งประเทศไทยครั้งที่ ๑๔จ.ปัตตานี พ.ศ. ๒๕๒๔ ซึ่งมีลักษณะสำคัญ คือ เสื้อในนางไม่มีแขนสี
                               ดำผ้านุ่งเป็นโสร่งบาติกหรือผ้าซอแกะ สอดดิ้นเงินทองแบบมาเลเซียตัดเย็บแบบหน้านางหรือเลียนแบบจับจีบ
                               หางไหล ผ้าสไบ สำหรับคลุมไหล่ จับจีบเป็นใบด้านหน้า

ที่มา :     https://sites.google.com/site/sineenarticezy/silpa-dntri-phun-meuxng-phakh-ti/ta-rikipas

      กลับด้านบน

ดนตรี

 เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทยภาคใต้ทับ


                                             เป็นเครื่องดนตรีที่มีความสำคัญ ในการให้จังหวะควบคุมการเปลี่ยนแปลงจังหวะและ เสริมท่ารำของ
                               การแสดงโนราให้ดีเยี่ยม ตัว ทับมีลักษณะคล้ายกลองยาวแต่มีขนาดเล็กกว่า มาก ยาวประมาณ ๔๐-๕๐ เซนติเมตร
                               ทำด้วยไม้แก่น ขนุน หุ้มด้วยหนัง เช่น หนังค่าง หนังแมว ตรึงหนัง ด้วยเชือกด้ายและหวาย ทับใบหนึ่งจะมีเสียงทุ้ม
                               เรียกว่า “ลูกเทิง” ส่วนอีกใบ หนึ่งจะ มีเสียงแหลมเรียกว่า “ลูกฉับ”

กลองโนรา


                                             ใช้ประกอบการแสดงโนราหรือหนัง ตะลุง โดยทั่วไปมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของหน้า กลองทั้ง ๒ ด้าน
                               ประมาณ ๑๐ นิ้ว และมี ส่วนสูงประมาณ ๑๒ นิ้ว กลองโนรานิยมทำด้วยแก่น ไม้ขนุน เพราะเชื่อว่าทำให้เสียงดี
                               หนังที่ หุ้มกลองใช้หนังวัวหรือควายหนุ่ม ถ้าจะให้ดีต้องใช้หนังของลูกวัวหรือลูกควาย มี หมุดไม้หรือภาษาใต้
                               เรียกว่า “ลูกสัก” ตอกยึดหนังหุ้มให้ตึง มีขาทั้งสอง ขาทำด้วยไม้ไผ่มีเชือกตรึงให้ติดกับ กลอง และมี ไม้ตีขนาด
                               พอเหมาะ ๑ คู่ ถ้า เป็นกลองที่ใช้ประกอบการแสดงหนังตะลุง จะมี ขนาดเล็กกว่า ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง
                               ประมาณ ๖ นิ้ว และมีส่วนสูงประมาณ ๘ นิ้ว     

โหม่ง

                                             เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีชนิดหนึ่ง ใช้ตีประกอบจังหวะ โหม่ง คือ ฆ้องคู่ เสียงต่างกันที่เสียงแหลม
                               เรียกว่า “เสียงโหม้ง” ที่เสียงทุ้มเรียกว่า”เสียงหมุ่ง” หรือ บางครั้งอาจจะเรียกว่าลูกเอกและลูกทุ้มซึ่งมีเสียงแตก
                               ต่างกันเป็นคู่ห้าแต่ปัจจุบันเป็นคู่แปด วิธีตีโหม่งในวงเครื่องสายหรือปี่พาทย์ ผู้ตีนั่งขัดสมาธิ ให้โหม่งวางอยู่
                               ตรงหน้า จับไม้ตีตีตรง กลางปุ่มด้วยน้ำหนักพอประมาณเนื่องจากโหม่งชนิดนี้มีเสียงดังกังวานยาวนาน
                               จึงนิยมตีห่างๆ คือสองฉิ่งสอง ฉับต่อการตีโหม่งครั้งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นวงกลองยาวหรือวงมังคละ จะนิยมตีลง
                               ที่จังหวะหนัก(ฉับ)ตลอดโดยไม่เว้น

แตระพวงหรือกรับพวง

                                            เป็นกรับชนิดหนึ่งตอนกลางทำด้วยไม้บางๆหรือแผ่นทองเหลือง หรืองาหลายๆอันและทำไม้แก่น
                               2อันเจาะรูตอนหัวร้อยเชือกประกบไว้ 2 ข้างเหมือนด้ามพัดเวลาตีใช้มือหนึ่งถือตรงหัวทาง
                               เชือกร้อย แล้วฟาดลงไปบนอีกฝ่ามือหนึ่งเกิดเป็นเสียงกรับขึ้นหลายเสียง จึงเรียกว่ากรับพวงใช้เป็นอานัต
                               สัญญาณ เช่นในการเสด็จออกในพระราชพิธีของพระเจ้าแผ่นดิน เจ้าพนักงานจะรัวกรับ และใช้กรับพวงตีเป็น
                               จังหวะในการขับร้อง เพลงเรือ ดอกสร้อยและใช้บรรเลงขับร้องในการแสดง นาฏกรรมด้วย

                                                                                            ที่มา :  https://beelove29045.wordpress.com
    กลับด้านบน

ศิลปะ

ศิลปวัฒนธรรมการตกแต่งลวดลายบนเรือกอและ 

                                             วัฒนธรรมทางด้านศิลปะและการตกแต่งเรือกอและด้วยลวดลายจิตรกรรมต่าง ๆ เป็นจุดเด่นของ
                               เรือกอและในภาคใต้ทำกันแพร่หลายมากโดยไม่ใช่ตั้งใจที่จะทำเพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่มีความเชื่อ
                               ทางด้านศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง

                                             วัสดุอุปกรณ์ในการเขียนลวดลายจิตรกรรมบนเรือกอและประกอบด้วย 
                               1. วัสดุที่ใช้ถ้าเป็นของพื้นบ้านต้องมีแปรงทาสี พู่กัน มีดินสอ
                               2. ภาชนะใส่สี มีน้ำมันก๊าด ผ้าเช็ดสี จานสี
                               3. ที่สำคัญก็คือ สีน้ำมัน สีน้ำมันปกติถ้าเป็นจิตรกรรมเราใช้สีน้ำมันเป็นหลอด ที่ศิลปินเขียนกันแต่ว่าศิลปิน
                                พื้นบ้านที่นี่ใช้สีน้ำมันที่เป็นกระป๋อง เป็นประเภทสีเคลือบเรียกว่าสีเคลือบสังเคราะห์ สีที่ใช้ในการตกแต่ง
                                ลวดลายจิตรกรรมเรือกอและโดยทั่วไปมี 9 สี
                               3.1 กลุ่มที่หนึ่งได้แก่ สีเขียว สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน เป็นสีเขียนรองพื้นในส่วนต่าง ๆ
                               3.2 กลุ่มที่สองได้แก่ สีขาวผสม เป็นสีเขียวอ่อน เป็นสีชมพู สีเหลืองอ่อน แล้วก็สีฟ้า
                               3.3 สีกลุ่มที่สามได้แก่ สีขาว ดำ เป็นกลุ่มสีที่ใช้ในการตัดเส้นเน้นลวดลายต่าง ๆ ของเรือให้เกิดมีมิติสวยงาม

                                             ขั้นตอนการลงสีเขียนลายลงบนเรือกอและ  
                               1. ขั้นตอนการรองพื้น

                                             เมื่อสร้างลำเรือขึ้นมาได้แล้ว ขั้นต่อไปก็ต้องรองพื้นก่อนที่จะตกแต่งลวดลายจิตรกรรม การรองพื้น
                               ส่วนใหญ่แล้วจะรองพื้น 3 ชั้น และมีสีด้วยเช่น สีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว รองพื้นตรงนี้ 3 เที่ยว วิธีการรองพื้นใช้สี
                               น้ำมันเป็นสีเคลือบสังเคราะห์ ระบายไปหนึ่งครั้งแล้วรอให้แห้งแล้วจึงระบายซ้ำลงไป จะซ้ำตอนสีไม่แห้งไม่ได้
                               รองพื้น 3 ชั้น การรองพื้นบนเรือกอและเวลารองพื้นจะไม่ใช้รองพื้นสีเขียวทั้งลำเรือหรือสีเหลืองทั้งลำ
                               แต่จะรองพื้น เช่น กาบเรือด้านล้างเป็นสีเขียว กาบเรือด้านบนสีแดง ลักษณะแบบนี้คือในการรองพื้นลักษณะ
                               จะได้เป็นสีพื้นแต่หลากสี โดยเจ้าของเรือสามารถที่จะบอกได้ว่าจะเอาเรือสีอะไร ในการบอกนั้นเจ้าของเรือมี
                               สิทธิ์บอกได้เฉพาะที่ท้องเรือว่าท้องเรือจะเอาสีอะไร แต่สำหรับเรือทั้งลำนั้นเป็นสิทธิ์หรือเป็นอารมณ์ความชอบ
                               ของศิลปินพื้นบ้าน เป็นคนวาด

                               2. การร่างภาพ
                                             การร่างภาพจะร่างได้ 2 วิธีการด้วยกัน ก็คือร่างภาพที่สีอ่อนใช้สีอ่อน ๆ ร่างภาพลงไปแล้วอีกอย่าง
                               คือถ้าเป็นเครื่องประดับที่ละเอียดก็จะต้องร่างภาพด้วยดินสอ

                               3. การระบายสี
                                             โดยทั่วไปหลังจากที่ร่างภาพแล้วจะระบายสีโดยเริ่มจากการลงสีในกลุ่มที่ 3 ก่อน คือสีกลางก่อนรอ
                               ให้แห้งแล้วก็ลงสีกลุ่มที่สองซึ่งสีจะเข้มในส่วนของเงาแล้วก็ปล่อยให้แห้หลังจากนั้นลงสีอีกครั้งหนึ่งลงสีขาว
                               ในส่วนที่เป็นแสงจับแล้วจะใช้สีดำในการตัดเส้นเพื่อให้เกิดภาพที่สวยงาม
                                             เรือกอและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนกับเรือทั่วไปในประเทศ การตกแต่งลวดลายจิตรกรรม
                               ที่งามวิจิตรพิศดารบนเรือกอและตลอดทั้งลำคุณค่าของเรือกอและที่เป็นรูปธรรมที่สุดคือการเป็นยานพาหนะ
                               สำหรับประกอบอาชีพประมงในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้เรือกอและสามารถบอกเรื่องราวโดยเริ่มจาก
                               ชาวประมงใช้เรือกและเพื่อการติดต่อกับเพื่อนบ้าน เพื่อนันทนาการคือการแข่งขันประชันความเร็วเรือกอ
                               และด้านวัฒนธรรมทางศิลปกรรมของชนพื้นบ้านที่สามารถสะท้อนและแสดงออกถึงวัฒนธรรท้องถิ่นที่ประสม
                               ประสานหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ซึ่งนับว่าเรือกอและน่าจะเป็นมรดกและวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าแก่การ
                               ถ่ายทอดต่อไป

ที่มา :  http://www.stou.ac.th/study/projects/training/culture/content/net3-55/page1-3-55.html


      กลับด้านบน


โครงงานบูรณาการ O-NETสามกลุ่มสาระการเรียนรู้
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี