เสน่ห์ปะการัง เยือนยังทะเลมรกต สวยสดป่าไม้ ไข่มุกขึ้นชื่อ เลื่องลือ นกน้ำ ถิ่นถ้ำกลางทะเล เสน่ห์ เรือกอและ แวะน้ำตกอุดม ชมหมู่เกาะ ไพเราะนกเขาชวา ศิลป์ล้ำค่าปักษ์ใต้


กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี

[อาหาร] [อาชีพ]

 

                                                                                               อาหารพื้นบ้านภาคใต้

                                   อาหารพื้นบ้านภาคใต้มีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สืบเนื่องจากดินแดนภาคใต้
                        เคยเป็นศูนย์กลางการเดินเรือค้าขายของพ่อค้าจากอินเดีย จีนและชวาในอดีต ทำให้วัฒนธรรม
                        ของชาวต่างชาติโดยเฉพาะอินเดียใต้ ซึ่งเป็นต้นตำรับในการใช้เครื่องเทศปรุงอาหารได้เข้ามามีอิทธิพลอย่างมาก
                                   อาหารพื้นบ้านภาคใต้ทั่วไป มีลักษณะผสมผสานระหว่างอาหารไทยพื้นบ้านกับอาหารอินเดียใต้ เช่น น้ำบูดู
                        ซึ่งได้มาจากการหมักปลาทะเลสดผสมกับเม็ดเกลือและมีความคล้ายคลึงกับอาหารมาเลเซีย อาหารของภาคใต้จึง
                       มีรสเผ็ดมากกว่าภาคอื่น ๆ และด้วยสภาพภูมิศาสตร์อยู่ติดทะเลทั้งสองด้านมีอาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ แต่สภาพ
                       อากาศร้อนชื้น ฝนตกตลอดปี   อาหารประเภท
                        แกงและเครื่องจิ้มจึงมีรสจัด ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันการเจ็บป่วยได้อีกด้วย
                                   เนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงเป็นอาหารส่วนมากนิยมสัตว์ทะเล เช่น ปลากระบอก ปลาทู ปูทะเล กุ้ง หอย ซึ่งหาได้
                       ในท้องถิ่นอาหารพื้นบ้านของภาคใต้ เช่น แกงเหลือง แกงไตปลา นิยมใส่ขมิ้นปรุงอาหารเพื่อแก้รสคาว
                       เครื่องจิ้มคือน้ำบูดู
                                    อาหารของภาคใต้จะมีรสเผ็ดมากกว่าภาคอื่นๆ แกงที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ คือ แกงเหลือง แกงไตปลา
                       เครื่องจิ้มก็คือ น้ำบูดูและชาวใต้ยังนิยมนำน้ำบูดูมาคลุกข้าวเรียกว่า "ข้าวยำ" มีรสเค็มนำและมีผักสดหลาย
                       ชนิดประกอบ อาหารทะเลสดของภาคใต้มีมากมาย ได้แก่ ปลาหอยนางรม และกุ้งมังกร เป็นต้น        

ไก่กอแหละ

                                                 เครื่องปรุง
                                                           ไก่อ้วนๆ                                                                                            1               ตัว
                                                           มะพร้าวขูด                                                                                        100           กรัม
                                                           เนย                                                                                                    4               ช้อนโต๊ะ
                                                           น้ำมัน                                                                                                 2               ช้อนโต๊ะ
                                                           น้ำมะขามเปียก หรือน้ำมะนาว                                                            3               ช้อนโต๊ะ
                                                           น้ำตาลปี๊บ                                                                                          2               ช้อนโต๊ะ

                                                 เครื่องแกง
                                                           พริกแห้งแกะเมล็ดออกแช่น้ำ                                                              5               เม็ด
                                                           ลูกผักชีคั่วป่น                                                                                    1/4            ช้อนชา
                                                           ลุกยี่หร่าคั่วป่น                                                                                   1/4            ช้อนชา
                                                           อบเชยป่น                                                                                          1/4             ช้อนชา
                                                           หอมแดง                                                                                             2                หัว  
                                                           ขมิ้นสดหั่นละเอียด                                                                             1                ช้อนชา
                                                           กะปิ                                                                                                    1               ช้อนชา
                                                           โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด

                                                  วิธีทำ
                                                           1. คั้นมะพร้าวใส่น้ำ 2-2ครึ่ง ถ้วย คั้นให้ได้ 5-6 ถ้วย
                                                           2. ล้างไก่ หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ตัวหนึ่งประมาณ 10- 12 ชิ้นทอดด้วยเนย และน้ำมัน พอเหลือง
                                                               ตักไก่ใส่กะทิ ตั้งไฟกลางพอเดือดลดไฟลง เคี่ยวไฟอ่อนๆ
                                                           3. เอาเครื่องแกงลงผัดในน้ำ มันที่เหลือจากการทอดไก่แล้วใส่ลงในหม้อ ไก่ปรุงรสด้วย
                                                               น้ำปลาน้ำมะนาว  น้ำตาลให้ได้รสตามชอบ พอไก่เปื่อย ยกลงจัดเสิร์ฟ โรยพริกชี้ฟ้าแดง
                                                               ให้สวยงาม

ที่มา  :  http://www.oknation.net/blog/SouthernFoods/2013/03/23/entry-2

      กลับด้านบน

อาชีพภาคใต้

                     อาชีพการทำไร่ยาสูบ

                            ยาสูบ (Tobacco)

                                   ยาสูบจัดอยู่ในวงศ์ Solanaceae ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับ พริก มะเขือ มะเขือเทศ และมันฝรั่ง ยาสูบมีสาร
                       นิโคติน (nicotine) ที่มีสูตรทางเคมี C10H14N2 สารนี้ ได้จากการสังเคราะห์จากส่วนราก โดยพบว่ามีการสะสม
                       อยู่ที่ใบ ยาสูบที่สำคัญมี 2 ชนิด (species) คือ Nicotiana tabacum ที่นำไปใช้ทำผลิตภัณฑ์ยาสูบทั้งหมด ชนิดที่สอง
                       คือ Nicotiana rustica เป็นพวกมีนิโคตินในใบสูง นำไปใช้ในการทำสารฆ่าแมลง ยาฉุน และยาเคี้ยว
                       (เรวัติ เลิศฤทัยโยธิน, 2547)
                                   พื้นที่การปลูกยาสูบ ควรมีดินชั้นบน 25-35 เซนติเมตร เนื้อดินควรเป็นดินร่วนปนทราย (sandy loam)
                       หรือดิทรายร่วน (loamy sand) อุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี เมื่อแห้งไม่แข็งเป็นก้อน และเมื่อเปียกไม่เหนียว ส่วนดินลึก
                       70 เซนติเมตร ควรเป็นดินเหนียวปนทราย (sandy clay) เนื้อละเอียดปานกลาง ระบายน้ำได้ดี                                                                                            สามารถอุ้มน้ำและเก็บธาตุอาหารไว้ใช้ในช่วงแล้งได้ดีกว่าดินบน ในดินควรมีธาตุอาหารและอินทรียวัตถุไม่เกิน
                       ร้อยละ 3 ซึ่งช่วยให้ดินมีโครงสร้างที่โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก การอุ้มน้ำดี ตลอดจน จุลินทรียที่เป็นประโยชน์เจริญ
                       เติบโตได้ดี ดินควรมี pH 5.5-6.0 และไม่ควรมีคลอรีนเกิน 6 กิโลกรัมต่อไร่ ควรยกแปลงปลูกเพื่อช่วยการระบายน้ำ
                       และควรมีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ เพื่อที่จะนำน้ำเข้าแปลงได้ในเวลาที่ต้องการ ไม่ควรปลูกในพื้นที่ที่มีระดับน้ำใต้ดินตื้นกว่า
                       1 เมตร เนื่องจาก รากจะเจริญเติบโตไม่ดี สำหรับยาสูบเตอร์กิช ควรปลูกบนที่เนินที่มีความเข้มของแสงน้อย                                                                      และอุณภูมิค่อนข้างต่ำสำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสมในการปลูกยาสูบ คือ 21-26 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ช่วงกลางวัน
                       ไม่ควรสูงกว่า29-32 องศาเซลเซียส และช่วงเวลากลางคืนไม่ควรต่ำกว่า 18-21 องศาเซลเซียส และควรได้รับน้ำฝน
                       25-35 มิลลิเมตรต่อสัปดาห์ หรือ 10 วัน หรือ 250-1,270 มิลลิเมตร ตลอดฤดูปลูก ลักษณะของฝนที่เหมาะสมสำหรับยาสูบ
                       คือ ตกน้อยแต่บ่อยครั้ง

                                   ฤดูปลูกของยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนีย แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
                       1. ยาปี ปลูกระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม คุณภาพของใบดีที่สุด เนื่องจากได้รับปัจจัยในการปลูกอย่าง
                           เหมาะสมยาสูบในรุ่นนี้มีพื้นทีปลูกน้อยที่สุด
                       2. ยาทา ปลูกระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม คุณภาพของใบต่ำที่สุด เนื่องจากมักประสบปัญหาการเกิด
                           โรคและคุณภาพในการบ่มยาของใบไม่ดี มักปลูกในนาข้าวหลังการเก็บเกี่ยว ยาสูบประเภทนี้มีพื้นที่ปลูกมาก
                       3. ยาแล้ง ปลูกระหว่างเดือนเมษายนถึงสิงหาคม ใบยามีคุณภาพรองจากยาปี พื้นที่ปลูกยาแล้งมากกว่ายาปี
                           มักเกิดโรคตากบซึ่งทำให้เกิดแผลที่ใบ และก้านใบเน่าหลุดร่วงในขณะบ่ม

                                   วิธีการปลูกยาสูบพันธุ์ต่างๆ ประกอบด้วย
                        1. ยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนีย ระยะระหว่างแถว 1.2 เมตร ระยะระหว่างต้น 60 เซนติเมตร ซึ่งจะปลูกได้ 2,200-2,500 ต้นต่อไร่
                        2. ยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ ระยะระหว่างแถว 1.1 เมตร ระยะระหว่างต้น 50 เซนติเมตร
                        3. ยาสูบพันธุ์เตอร์กิช ปลูกเป็นแถวคู่ ระยะระหว่างแถว 15-20 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถวคู่ 40 เซนติเมตร
                            และระหว่างต้น 10 เซนติเมตร ซึ่งจะปลูกได้ 20,000-    30,000 ต้นต่อไร่



                                                                         

ที่มา  :  http://geoideal.blogspot.com/2012/01/tobacco.html 

       กลับด้านบน                             

 

 
โครงงานบรูณาการ O-NET สามกลุ่มสาระการเรียนรู้
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศสวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี