ส่วนผสมแกงฮังเล
-เนื้อสันคอหมูหั่นเต๋า 2 ถ้วยตวง
-เนื้อหมูสามชั้นหั่นชิ้นพอประมาณ 2 ถ้วยตวง
-น้ำตาลอ้อยป่น 2 ช้อน
-น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
-ขิงซอย 1/2 ถ้วย
-กระเทียมกลีบเล็กแกะเปลือก 1/2 ถ้วย
-ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
-สับปะรด 2 ช้อนโต๊ะ
-ผงฮังเล 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกงฮังเล
-พริกแห้ง 7 เม็ด
-พริกขี้หนูแห้ง 4 เม็ด
-หอมแดง 3 หัว
-กระเทียม 20 กลีบ
-ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
-ข่่าซอย 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
-ถั่วเน่า 1/2 แผ่น
วิธีการทำแกงฮังเล
1. โขลกหรือปั่นเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด พักไว้
2. ผสมเครื่องแกง ผงฮังเล สับปะรด และเนื้อหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง (สับปะรด
จะทำให้เนื้อหมูเปื่อยนุ่มเร็วขึ้น)
3. ตั้งกระทะไฟกลางพอร้อนเติมน้ำเล็กน้อยแล้วนำหมูที่หมักลงผัดจนหมูตึงตัว ค่อยๆ เติมน้ำ ใส่ถั่วเน่า เคี่ยวต่อ
จนหมูนิ่มได้ที่ ปรุงรสด้วยใส่น้ำตาลอ้อยป่นหรือน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก กระเทียม และขิงซอยเคี่ยวต่อจน
ง่วนขลุกขลิก เติมถั่วลิสงคั่วผัดต่ออีกสักพักจากนั้นจึงปิดไฟยกลงจากเตา
4. จัดลงจานเสิร์ฟ
http://www.fungfink.com/food/วิธีทำแกงฮังเล.html
>>กลับด้านบน<<

>>อาชีพ<<
อาชีพ

การปลูกชา ส่วนใหญ่พื้นที่ปลูกชาในไทยเป็นแหล่งปลูกตามภูเขาทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธาร
การเลือกพื้นที่จึงต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์สภาพป่าและสภาพแวดล้อมด้วยพื้นที่ที่เหมาะสำหรับ
การปลูกชาควรเป็นแหล่งที่มีความชื้นในอากาศสูง มีอุณหภูมิต่ำ
เพราะ สภาพภูมิอากาศและสภาพพื้นที่ที่เหมาะสมทำให้มีการทำไร่ชาเป็นจำนวนมากในภาคเหนือ จึงทำให้มีคนประกอบอาชีพทำไร่ชา
และเก็บใบชา
http://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=6593&s=tblplant