กลุ่มสาระศิลปะ
[นาฎศิลป์] [ดนตรี] [ศิลปะ]

การแสดงภาคกลาง
รำสีนวล
ประวัติความเป็นมา
รำสีนวล เป็นการแสดงพื้นเมืองภาคกลางที่อวดลีลา ท่ารำที่อ่อนช้อยงดงาม การแต่งกายที่สวยงาม เป็นกิริยาอาการของหญิงสาวแรกรุ่นที่สนุกสนานรื่นเริง
ลักษณะและรูปแบบการแสดง
การรำสีนวลเป็นการรำเดี่ยวหรือรำหมู่ที่ใช้ผู้หญิงแสดงล้วน มีการตีบทตามบทร้องตามแบบแผนนาฏศิลป์ไทย มีลีลาท่ารำที่ใช้ภาษาท่าและภาษานาฏศิลป์ประกอบบทร้อง และจะจบด้วยเพลงต้นวรเชษฐ์ ออกเพลงเร็วเพลงลา หรือจบ ลงด้วยเพลงเร็ว ลา ก็ได้
การแต่งกาย
รำสีนวลเป็นการรำของผู้หญิงพื้นเมืองภาคกลาง ลักษณะการแต่งกายจะห่มสไบ นุ่งโจงกระเบน ปล่อยผม ทัดดอกไม้ด้านซ้าย สวมเครื่องประดับ สร้อยคอ ตุ้มหู สะอิ้งนาง และกำไลเท้า
http://natasin-rochana.mobile.exteen.com/20120306/entry-20
กลับด้านบน

เครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคกลาง

กลองแขก
เป็น กลองที่ตีหน้าทับได้ทั้งในวงปี่พาทย์ มโหรีและบางกรณีวงเครื่องสายก็ได้

โทนรำมะนา
รูปร่างคล้ายกลองยาว ขนาดเล็ก ทำด้วยไม้ หรือดินเผา ขึงด้วยหนัง ดึงให้ตึงด้วยเชือก

ซอสามสาย
เป็นซอ ที่มีรูปร่างงดงามที่สุด ซึ่งมีใช้ใน วงดนตรีไทย มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย

ระนาดเอก
เป็นระนาดเสียงแหลมสูง
ประกอบ ด้วยลูกระนาด ที่ทำด้วยไม้ไผ่บงหรือไม้ เนื้อแข็ง
ที่มา:http://www.culture.go.th/research/musical/html/th_central.htm
กลับด้านบน

ปราสาทพระเทพบิดร หรือพระพุทธปรางค์ปราสาท

เป็นปราสาทจตุรมุข มีมุขเด็จ 3 มุข ขนาดกว้าง 25.55 เมตร ยาว 28.35 เมตร ตั้งอยู่บนฐานไพมีระหว่างพระอุโบสและหอพระมณเฑียร เป็นปราสาทจตุรมุขยอดปรางค์ มีทางขึ้นจากฐานไพที 4 ทิศ ปูหินอ่อน พนักบันไดปูกระเบื้องเคลือบสีขาว พนักอัฐจันทร์ทางขึ้นเป็นพลสิงห์ บันไดนาค 5 เศียร สวมมงกุฏปิดทองประดับกระจก ส่วนบันไดทางด้านตะวันออกเป็นรูปอัปสรสีห์ 2 ตน ยืนประดับบันได ผนังปราสาทก่ออิฐฉาบปูน ประดับกระเบื้องเคลือบสีลายพุ่มข้าวบิณฑ์ เสาเป็นเสาก่ออิฐถือปูนย่อมุมไม้สิบสอง พื้นเสาประดับกระเบื้องสีเขียวลายไทย เสาอิงเป็นเสาย่อมุมไม้สิบสอง ขอบเสาปั้นปูนเป็นลายรักร้อยปิดทองประดับกระจก ซุ้มประตูหน้าต่างเป็นซุ้มยอดทรงมงกุฏ ปิดทองประดับด้วยกระจกสี เสาซุ้มประดับด้วยแผ่นโลหะลงยา เพดานซุ้มเป็นลายดวงดาราของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 5 ดวง บานหน้าต่างเป็นลายรดน้ำพุ่มข้าวบิณฑ์เทพนม ด้านในเป็นทวารบาลรูปเทวดาเหยียบสิงห์ หลังคาแบบจตุรมุขลด 4 ชั้น เฉพาะด้านหน้าทางทิศตะวันออกลด 5 ชั้น กึ่งกลางมุขทั้งสี่เป็นยอดปรางค์ประดับกระเบื้องสีเขียวอ่อนตลอดองค์ มุขเด็จรับยอดปรางค์เป็นเสาย่อมุมไม้สิบสองประดับกระเบื้อง ยอดนพศูลเป็นรูปพระมหามงกุฏโลหะปิดทอง พระบรมราชสัญลักษณ์ของรัชกาลที่ 4 หลังคามุงด้วยกระเบื้องสี ประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และนาคสะดุ้ง มุขด้านหน้า ( ตะวันออก ) ระหว่างเสาทางเข้าประตู ประดับด้วยรวงผึ้งและสาหร่าย ปลายลายเป็นเทพนม ถัดจากหน้าบัน ประดิษฐานพระมหามงกุฏประดับฉัตรสองข้าง บนพื้นสีน้ำเงินคือ พระบรมราชสัญลักษณ์ของรัชกาลที่ 4 กลางหน้าบันมุขด้านทิศเหนือเป็นรูปอุณาโลม คือ พระบรมราชสัญลักษณ์ของรัชกาลที่ 1 กลางหน้าบันมุขทิศใต้เป็นรูปครุฑยุดนาค คือ พระบรมราชสัญลักษณ์รัชกาลที่ 2 กลางหน้าบันมุขทิศตะวันตกเป็นรูปพระ มีศิลปกรรมประกอบอยู่ทั้ง 2 ประเภท มีทั้งประเภทวิจิตรศิลป์ (fine arts)ที่ประกอบด้วย งานจิตรกรรม ประติมากรรม และประเภทประโยชน์ศิลป์ที่ประกอบด้วยการปั่น แบบต่างๆ พร้อมกับเครื่องใช้สอยที่มีการประดิษฐ์ขึ้นมาจากเครื่องทองเหลืองและอีกมากมาย
ที่มา : http://www.lib.su.ac.th/web-temple/index.php?option=com_content&view=article&id=17:watprasiratana&catid=1:pra-na-khon&Itemid=18
กลับด้านบน
