[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 3 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ (ตัวแสดงอารมณ์)
poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
เปิดอก "พิธา" ในช่วงเวลา 48 ชม. ก่อนฟังคำตัดสินยุบพรรคก้าวไกล "เบาใจและภูมิใจ"  VIEW : 90    
โดย 99

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 299
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 13
Exp : 100%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 91.192.81.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 8 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2567 เวลา 14:16:57   

เบาใจและภูมิใจ: เปิดอก ‘พิธา’ ใน 48 ชม. สุดท้ายก่อนคำตัดสินยุบพรรค

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และประธานที่ปรึกษาพรรคคนปัจจุบัน ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอภาคภาษาไทยเกี่ยวกับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมาในวันที่ 7 ส.ค. นี้ และคำตัดสินอาจนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล รวมถึงการตัดสิทธิ์ทางการเมืองของเขา

พิธาบอกกับวีโอเอไทยว่า หลังจากที่พรรคนำเสนอเหตุผลหักล้างการยื่นเรื่องของ กกต. ที่อ้างว่าการหาเสียงของพรรคเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ผิดรัฐธรรมนูญ ขณะนี้เขารู้สึกว่าได้ทำทุกอย่างทำที่จะทำได้ไปแล้ว

"รู้สึกเบาใจและภูมิใจ แล้วก็สบายใจกับสิ่งที่ได้ทำมาในช่วงเวลาที่มีอยู่ ไม่ได้รู้สึกว่ายอมเเพ้อะไรง่าย ๆ ไม่ได้รู้สึกว่าไม่ได้ทำเต็มที่ในช่วงที่เรามีเวลาอยู่" เขากล่าว

พิธาบอกด้วยว่า "มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราอย่างเดียว ตอนนี้มีความพยายามที่จะยุบพรรคเรา มีความพยายามที่จะตัดสิทธิ์เรา เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด เราต้องทำให้ได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามองย้อนกลับไปแล้ว ก็รู้สึกว่าเราได้ทำในทุกสิ่ง ทุกวิถีทาง"

หากว่าพรรคถูกยุบและเขาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง พิธากล่าวว่า เขาไม่ได้รู้สึกยึดติดกับตำแหน่งและได้เตรียมผู้นำรุ่นต่อ ๆ ไปไว้แล้ว

"ผมมองการเมืองเป็นเกมยาว" พิธากล่าว "พอเรามองมันเป็นเกมยาวมันต้องมีทั้งกลยุทธ์ ในขณะเดียวกันก็ความอดทนที่จะรอ...แต่กลยุทธ์มันก็ต้องมีการประนีประนอม"

ด้านหนึ่งพิธาระบุว่ายังคงยืนหยัดในเป้าหมายสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็ยกตัวอย่างถึงการต่อรองทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขั้นตอนต่าง ๆ หลังนำพาพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งและได้ที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มากที่สุด เมื่อปีที่เเล้ว ด้วยคะเเนนเสียงรวม 14 ล้านเสียง

ชัยชนะดังกล่าวตามมาด้วยความพยายามตั้งรัฐบาลร่วมจากการเริ่มต้นจับมือกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ที่นั่งมากที่สุดอันดับสอง แต่ด้วยวาระการสร้างความเปลี่ยนแปลงของก้าวไกลในประเด็นมาตรา 112 กลายเป็นเหตุผลให้ความพยายามตั้งรัฐบาลสะดุดลง เพราะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขณะที่ไม่มีความเป็นไปได้ที่ก้าวไกลและขั้วอำนาจเดิมภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะหาจุดลงตัวร่วมกัน

วีโอเอถามถึงผลลัพธ์ของการเจรจาตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้น และความรู้สึกว่าถูกหักหลังหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวคือการสลับขั้วอำนาจ ซึ่งต่อมาเป็นผลพวงมาถึงความไม่มั่นคงต่อการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกล ที่กำลังรอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันพุธ

พิธายกตัวอย่างการประนีประนอมที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น เช่นจำนวนเก้าอี้รัฐมนตรี และนโยบายที่จะช่วยผลักดันร่วมกัน ซึ่งก็ยังไม่สามารถทำให้ได้เสียงสนับสนุนเพียงพอในการตั้งรัฐบาลที่มีเขาพยายามเป็นเเกนนำ

"แต่คำว่าประนีประนอมกับตระบัดสัตย์ หรือว่าประนีประนอมกับต้องโกหกกับสิ่งที่ตัวเองเคยสัญญาไว้ภายในระยะเวลา 3 - 4 เดือนก่อนเลือกตั้งกับเรา ผมคิดว่าอย่างนี้เป็น bad compromise เป็นการประนีประนอมที่ขายวิญญาณตนเอง"http://rarebitsandpieces.com